Monday, September 14, 2015

วิธีคำนวณBMIอย่างถูกวิธี


*การวัดค่าส่วนสูงและน้ำหนัก*
การวัดค่าส่วนสูงและน้ำหนักที่นำมาใช้คำนวนBMIนั้นจะต้องทำอย่างถูกวิธี เพราะถ้าหากค่าที่วัดออกมาผิดเพี้ยนตั้งแต่แรก ก็จะทำให้ผลBMIนั้นเพี้ยนไปด้วย

การวัดส่วนสูง การวัดส่วนสูงจะต้องทำการถอดรองเท้าออกก่อนทุกครั้ง เวลาวัดควรยืนตัวตรง เงยหน้าตรง ไม่ควรยืนหลังงอหรือเอนตัวไปทางซ้ายหรือขวา
การชั่งน้ำหนัก การชั่งน้ำหนักควรใช้เครื่องชั่งที่ได้มาตรฐานอ่านค่าได้ไม่ผิดเพี้ยน โดยหากสามารถชั่งเองที่บ้านได้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะการชั่งน้ำหนักนั้นจะต้องทำการถอดเสื้อผ้าออกเสียก่อนจึงจะได้ผลลัพท์ที่ออกมาถูกต้อง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชั่งน้ำหนักนั้นควรจะเป็นช่วงเช้าๆหลังทำธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การคำนวณBMIนั้นสามารถใช้หน่วยคำนวณได้หลายแบบ แต่แบบที่สะดวกสำหรับคนไทยที่สุดก็คือ Metric Units ซึ่งสิ่งที่จะต้องใช้คำนวณก็คือ
1.ความสูง (meters)  //การแปลงหน่วยเซ็นติเมตรเป็นเมตร ให้เอาเซ็นติเมตรหารด้วย100
2.น้ำหนักตัว (kilograms)

*วิธีคำนวณBMI*
สูตรการคำนวณBMIที่WHOหรือองค์การอนามัยโลกแนะนำไว้ก็คือ [ น้ำหนักตัว ÷ (ส่วนสูง×ส่วนสูง) ]

อย่างอันนี้เราคำนวณของเรานะคะ
เราสูง1.64เมตร หนัก44กิโลกรัม ก็จะได้เป็น  [ 44 ÷ (1.64×1.64) ] = 16.36

หลังจากได้BMIมาแล้ว ก็ให้เอามาเทียบกับตารางข้างล่างนี้ว่าตอนนี้แต่ละคนนั้นอ้วนหรือผอมเกินไปหรือไม่
BMI Category
น้อยกว่า16
ผอมเกินไป
16 - 16.99
ผอมปานกลาง
17 - 18.49
ผอมเล็กน้อย
18.5 - 24.99
ปกติ
25 - 29.99
น้ำหนักเกิน
30 - 34.99
โรคอ้วนขั้น 1
35 - 39.99
โรคอ้วนขั้น 2
มากกว่า 40
โรคอ้วนขั้น 3

การลดน้ำหนักนั้นไม่ควรใช้วิธีอดอาหาร เพราะหากทำระยะยาวก็จะทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ ซึ่งหากกระเพาะทะลุและไม่ได้รับการผ่าตัดอย่างทันท่วงทีก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้การกินยาลดความอ้วนหรือกาแฟลดความอ้วนที่ซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตก็อันตรายมากเช่นกัน เพราะยาหรือกาแฟเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยจริงหรือไม่และโดยเฉพาะหากไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ นอกจากนี้การอดอาหารจนร่างกายรับไม่ไหวก็จะทำให้เกิดอาการช็อคหมดสติหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องนั้นคือการคุมอาหารและการออกกำลังกาย โดยอาหารมื้อเช้านั้นเป็นมื้อที่ควรรับประทานให้มาก เพราะร่างกายนั้นขาดอาหารมานานกว่า12ชม. โดยอาหารเช้านั้นจะไม่ทำให้ร่างกายอ้วนแต่อย่างใด เพราะหลังจากที่ทานอาหารมื้อเช้าแล้วทุกคนก็จะมีกิจกรรมที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน ทำให้อาหารถูกเผาผลาญไปเป็นพลังงานจนหมดจึงไม่ทำให้ร่างกายอ้วน อาหารกลางวันก็เช่นกัน เป็นช่วงที่ร่างกายยังคงต้องการพลังงานมากอยู่จึงสามารถกินได้โดยหายห่วง ส่วนมื้อที่ควรระวังที่สุดก็คือมื้อเย็น มื้อนี้ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไปโดยเฉพาะอาหารพวกที่มีไขมันมากๆ อาหารที่แนะนำสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนก็คือ บะหมี่,เกี๊ยวน้ำ,สุกี้ ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้ท้องอิ่มแต่ไม่อ้วน ให้กินร่วมกับผลไม้ และคอยออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวันเช้าเย็น

Friday, April 24, 2015

วิธีแพ็คกล่องไปรษณีย์ ไม่ให้ของแตก

หลายๆคนคงเคยเจอปัญหาสิ่งของเสียหายเวลาที่ส่งผ่านEMSของไปรษณีย์มาแล้ว เพราะอย่างที่รู้กันว่าไปรษณีย์ไทยนั้นไม่ค่อยมีความพิถีพิถันในการส่งของเท่าไหร่นัก และพอได้ดูจากหลายๆคลิปที่ถูกอัพโหลดขึ้นยูทูปก็เลยเข้าใจเลยว่าทำไมของถึงได้แตกบ่อยนัก ดังนั้นวันนี้จึงอยากมาแนะนำวิธีการแพ็คของอย่างปลอดภัยให้ค่ะ มาดูกันนะคะว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.สก็อตเทป
2.คัตเตอร์
3.แผ่นโฟม
4.กระดาษลัง
5.พลาสติกกันกระแทก
6.กล่องไปรษณีย์

ขั้นตอนที่1 : เตรียมสิ่งของที่ต้องจะการส่ง (จะบอกทำไมเนี่ย )


ขั้นตอนที่2 : ให้เอากระดาษลังมาตัดเป็นแผ่นยาวๆสัก2แผ่น แล้วเอามาพันรอบสิ่งของที่ต้องการส่ง (ให้พันตามรูปประกอบด้านล่าง โดยพันทั้งแนวXและแนวY)  ตรงนี้ให้เอาสก๊อตเทปซีลไว้ให้แน่นด้วยนะคะ โดยกระดาษลังถ้าสามารถพันได้สัก2รอบจะดีมากๆ


ขั้นตอนที่3 : ให้ใช้พลาสติกกันกระแทกหุ้มให้แน่นแล้วก็เอาสก๊อตเทปซีลไว้ ตรงนี้หุ้มชั้นเดียวก็พอค่ะ เพราะเดี๋ยวมีโฟมอีกชั้นนึง


ขั้นตอนที่4 : เอาแผ่นโฟมมาตัดออกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม6แผ่น ซึ่งจะประกอบไปด้วย
1.ด้านฐานและด้านบน
2.ด้านข้างทั้งสี่
ซึ่งตรงนี้ให้วัดขนาดให้ดี แล้วจากนั้นก็ให้เอาแผ่นโฟมมาบล็อคสินค้าไว้ที่ส่วนฐานและด้านข้างทั้งสี่ตามรูปด้านล่าง แล้วให้ใช้สก๊อตเทปซีลไว้ให้แน่น ส่วนด้านบนให้ปล่อยทิ้งไว้ยังไม่ต้องบล็อคค่ะ..เอาไว้หลังสุด


ขั้นตอนที่5 : ให้ประกอบกล่องไปรษณีย์ที่ซื้อมา จากนั้นก็นำสิ่งของไปซีลไว้กับพื้นกล่อง โดยให้ใช้สก๊อตเทปซีลไว้ให้แน่น (ควรแน่นมากๆให้ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้)


ขั้นตอนที่6 : จากขั้นตอน5 จะเห็นว่าในกล่องทั้งด้านซ้าย, ขวา, ล่างจะเหลือช่องว่างอยู่ ซึ่งตรงนี้ให้เอาแผ่นโฟมมาตัดให้ได้ขนาดที่สามารถใส่ลงไปได้ฟิตพอดี(ตามรูปด้านล่าง) แล้วก็ยัดลงไป ตรงนี้ไม่ต้องไปเน้นสวยงามอะไรมากค่ะ..เอาแค่ให้แน่นฟิตก็พอแล้ว จากนั้นถึงค่อยเอาสก๊อตเทปซีลไว้ให้แน่นอีกที และสุดท้ายก่อนปิดกล่องก็ให้เอาแผ่นโฟมแผ่นสุดท้ายมาซีลไว้ด้านบนและก็ปิดกล่องตามปกติ(แผ่นโฟมด้านบนต้องกะความหนาให้ดี เวลาปิดกล่องลงไปต้องฟิต) เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น

เพียงเท่านี้สิ่งของที่ส่งผ่านไปรษณีย์ก็จะไม่ได้รับความเสียหายแล้วค่ะ อันนี้สามารถรองรับการโยนได้สบายๆเลยทีเดียว ^_^ สำหรับวันนี้ก็ขอบายๆไปก่อนนะคะ ใครมีปัญหาของแตกบ่อยๆก็อย่าลืมลองทำกันดูนะคะ

ทริค
สำหรับใครที่ไม่มีโฟมหรือหาซื้อไม่ได้..ก็ให้ใช้กระดาษลังแทนก็ได้นะคะ โดยให้เอามาตัดพับเป็นกล่องแบบรูปด้านล่าง ก็จะสามารถใช้บล็อคสิ่งของให้ปลอดภัยได้เหมือนกัน เพียงแต่ยังสู้โฟมไม่ได้เท่านั้นเอง

 

Thursday, March 19, 2015

รีวิวข้าวกล่อง S&P

ครั้งก่อนเราได้เคยเขียนรีวิวเกี่ยวกับอาหารแช่แข็งเอาไว้ และก็มีเพื่อนๆหลายคนที่แนะนำเสริมมาว่า อยากให้เราเอาข้อมูลหน้าตาอาหารของจริงมาลงด้วย ดังนั้นครั้งนี้เราจึงได้ทำตามคำขอแล้วค่ะ โดยครั้งนี้เราจะรีวิวของยี่ห้อS&P นะคะ คราวนี้มาดูกันค่ะ..ว่าหน้าตาอาหารแต่ละเมนูของS&Pนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

** สปาเก็ตตี้กุ้งและซอสพริกไทยดำ **


เมนูนี้รสชาติจะเด่นไปที่เครื่องเทศเป็นหลัก ก็คือเน้นไปที่รสชาติพริกไทยดำ รสชาติรวมๆจะออกกลมกล่อม..กินแล้วไม่รู้สึกเค็ม เส้นสปาเก็ตตี้ใช้เส้นอย่างดีค่ะ ส่วนผักต่างๆก็สดน่ากินไม่เปื่อยเละ แต่จะมีเฉพาะหัวหอมใหญ่ที่เค้าจงใจทำมาให้นิ่ม..เพราะว่าปกติหลายๆคนจะไม่ชอบกินกัน แต่อันนี้เค้าทำมาจนสุกนิ่มเลยค่ะ ขนาดเราไม่ชอบกินหัวหอมยังกินได้สบายเลย ส่วนกุ้งที่ใช้นั้นจะเป็นกุ้งแช่แข็งที่เด็ดหางมาให้แล้วเรียบร้อย กล่องนึงจะใส่มาประมาณ3-4ตัว ส่วนราคาเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ81บาท

คะแนน 4/5

** ข้าวกระเพราไก่ **


เมนูนี้หลังจากที่เวฟจนเสร็จแล้ว เราค่อนข้างตกใจกับสีของมันมาก..เพราะสีค่อนข้างโหด แต่พอกินเข้าจริงๆกลับเป็นกระเพราที่ทำรสชาติออกมาได้ดีมาก ก็คืออร่อยมากทีเดียวและก็ไม่เผ็ดเหมือนกับหน้าตาของมันเลยค่ะ คนฝรั่งสามารถกินได้สบายๆ ส่วนเนื้อไก่จะนิ่มและไม่มีกลิ่นสาบ ส่วนใบกระเพราะนั้นถูกผัดมาจนสุกกำลังดี..ก็คือจะออกนิ่มๆกินง่าย แต่ไม่ถึงกับเปื่อยจนเละนะคะ ส่วนข้าวที่ใช้นั้นเป็นข้าวหอมมะลิ จริงๆผัดกระเพรานั้นจะมีหลายสูตร ซึ่งสูตรของS&Pนั้นถือว่าทำออกมาได้อร่อยดีมากค่ะ และก็ไม่มีถั่วฝักยาวมากวนใจด้วยแน่นอน ส่วนราคาเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ63บาท

คะแนน 5/5

** ข้าวหมูไข่พะโล้ **


ข้าวไข่พะโล้ของS&P รสชาติจะออกไปทางหวานๆหน่อย แต่ไม่ถึงกับหวานมากจนคนไม่ชอบกินหวานกินไม่ได้นะคะ ข้าวที่ใช้จะเป็นข้าวหอมมะลิตามสไตล์ของS&P ในกล่องจะมีไข่มา1ลูกผ่าครึ่ง และก็มีหมูอีก3ชิ้น เป็นหมู3ชั้นที่ไม่มีไขมันค่ะเพราะเค้าตัดออกเหลือแต่เนื้อ ชิ้นกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เนื้อตุ๋นมาจนเปื่อยไม่เหนียวและไม่มีกลิ่นสาบ ราคาเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ63บาท

คะแนน 5/5

** เกี๊ยวกุ้งน้ำ **


สำหรับอาหารแช่แข็ง.. หากพูดถึงเมนูเกี๊ยวกุ้งน้ำยังไงก็ต้องยกให้CPเป็นที่หนึ่งแน่นอน เพราะว่าเจ้านั้นเค้าทำออกมาได้ดีมากๆเลยค่ะ ส่วนสำหรับเกี๊ยวกุ้งน้ำของS&Pนั้นก็ทำออกมาได้ดีมากเหมือนกัน แต่จะดีไปคนละแบบค่ะ เดี๋ยวเราจะขอเทียบให้ทีละอย่างนะคะ ถ้าเป็นเรื่องรสชาติของน้ำซุปเราว่าของS&Pทำออกมาได้อร่อยกว่า และก็ผักที่ใส่มาจะดูสดและดูน่ากินกว่าของCP ส่วนไส้ข้างในเกี๊ยวทั้งของCPและS&Pจะยัดไส้มาขนาดพอๆกัน ต่างกันตรงที่ของCPจะเป็นกุ้งตัวใหญ่ทั้งตัว ในขณะที่ของS&Pจะเป็นกุ้งสับ..แต่จะเป็นเนื้อกุ้งล้วนๆนะคะและก็มีการปรุงรสมาด้วย ส่วนแป้งที่ใช้ห่อเกี๊ยวรู้สึกของS&Pจะนุ่มกว่าค่ะ ของCPจะออกแข็งๆหน่อย ส่วนจำนวนเกี๊ยวที่ใส่มาทั้งของCPและS&Pจะใส่มา5ชิ้นเท่าๆกัน ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ75บาท (ของCPราคา65บาท)

คะแนน 5/5

** ข้าวปลาซาลมอนผัดฉ่า **


เมนูนี้หากดูหน้าตาเผินๆอาจจะดูเหมือนเผ็ด..แต่จริงๆแล้วรสชาติของมันนั้นไม่ได้มีความเผ็ดเลยค่ะ ก็คือจะมีรสเผ็ดแบบนิดๆเท่านั้น(ให้พอรับรู้ถึงความเผ็ด)แต่ไม่ถึงกับทำให้แสบลิ้น ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของS&Pในทุกๆเมนูเลยที่จะเน้นรสชาติให้คนส่วนใหญ่กินได้ ส่วนเนื้อปลาที่นำมาใช้ผัดจะเป็นเนื้อปลาซาลมอนที่ทอดไว้แล้ว แต่ไม่ได้ถึงกับกรอบนะคะ ก็คือทอดมานิดๆเท่านั้นส่วนข้างในก็ยังนิ่มๆเหมือนเดิม และก็เนื้อปลานั้นจะไม่มีก้างติดมาเลยเพราะว่าเค้าเลาะก้างออกจนเกลี้ยงเลยค่ะ ดังนั้นเวลากินก็สามารถสบายใจ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆที่ใส่มาก็จะมี หน่อไม้อ่อน(เท่าที่กินยังไม่เคยเจอก้านแก่ติดมานะคะ),กระชาย,พริกไทยอ่อน,พริกชี้ฟ้า ส่วนข้าวที่ใช้ก็จะเป็นข้าวหอมมะลิค่ะ เรื่องรสชาติเราถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ82บาท

คะแนน 5/5

** ขนมจีนแกงเขียวหวานหมู **


เมนูนี้เป็นอีกเมนูนึงที่เราค่อนข้างสนใจมากตอนที่เห็นครั้งแรก เพราะว่าไม่น่าเชื่อว่าขนมจีนก็สามารถนำมาทำอาหารแช่แข็งได้ ซึ่งจากประสบการณ์ที่เราลองกินมานะคะ เราขอแนะนำเลย..ว่าก่อนที่จะนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟควรจะพรมน้ำใส่เส้นขนมจีนให้ชุ่มซะก่อน อันนี้ถือเป็นเบสิคเลย อย่างเวลาอุ่นฮะเก๋าแช่แข็งก็เหมือนกันค่ะ ไม่งั้นมันจะแข็ง คราวนี้มาพูดถึงเรื่องรสชาติกันบ้าง เริ่มจากเส้นก่อน..เราว่ายังอร่อยสู้เส้นขนมจีนตามท้องตลอดไม่ได้ แต่ด้วยความที่เป็นอาหารแช่แข็งแค่นี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วค่ะ ส่วนรสชาติของแกงเขียวหวานเราว่าหวานมากเกินไป(สงสัยกลัวจะไม่หวานเหมือนชื่อ) ซึ่งถ้าเทียบกับข้าวเขียวหวานไก่ที่เป็นของยี่ห้อS&Pเหมือนๆกัน อันนั้นจะอร่อยกว่าค่ะ ส่วนปริมาณเนื้อหมูที่ใส่มาก็ถือว่าไม่น้อยจนเกินไป เนื้อหมูนุ่มไม่มีกลิ่นสาปและก็แกงมาจนเครื่องเทศเข้าเนื้อดีค่ะ ส่วนที่น่าติก็มีอีกอย่างนึงก็คือไม่ยอมเด็ดก้านพริกออก ซึ่งตรงนี้เราไม่ชอบมากๆเพราะเหมือนร้านๆนึงในตลาดที่เราเคยไปซื้อเลย เวลากินเข้าไปมันจะทิ่มปากทิ่มคอเอาค่ะ แต่จากที่ดูภาพตัวอย่างอาหารที่โชว์ไว้หน้ากล่องก็จะเห็นว่าไม่ได้เด็ดก้านพริกออกเหมือนกัน ดังนั้นคิดว่าน่าจะเป็นความตั้งใจมากกว่ามักง่าย แต่ยังไรซะก็ขอตัดคะแนนออกอีกคะแนน ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ69บาท

คะแนน 3/5

** ข้าวผัดน้ำพริกปลาซาลมอน **


เมนูนี้จะเป็นข้าวสวย(ข้าวหอมมะลิ)ที่ถูกนำมาผัดรวมกับน้ำพริก น้ำพริกทำมารสชาติดีมากเลยค่ะ ส่วนผักที่ใส่มาก็จะมีแครอทกับถั่วฝักยาวที่ถูกต้มจนสุกนิ่มแล้ว..ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว กินกับข้าวผัดน้ำพริกก็อร่อยเพลินดีเหมือนกันค่ะ ส่วนเนื้อปลาที่นำมาใช้ผัดจะเป็นเนื้อปลาซาลมอนที่ถูกเลาะก้างออกจนหมดแล้ว และก็นำมาทอดพอประมาณ โดยรวมเมนูนี้เราถือว่าดีทุกอย่าง แต่รู้สึกว่าเนื้อปลาจะใส่มาน้อยไปหน่อย ถ้าใส่เพิ่มอีกนิดก็จะดีค่ะ ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ79บาท

คะแนน 4/5

** ข้าวแกงส้มชะอมกุ้ง **


โดยปกติเราเองเป็นคนที่ไม่ชอบกินอาหารเปรี้ยวนัก แต่ครั้งนี้จำเป็นต้องรีวิวให้ครบทุกเมนูจึงต้องลองกินดูสักครั้ง เท่าที่เราลองกินดูรสชาติของแกงส้มจะเด่นไปทางรสเปรี้ยวเป็นหลัก ไม่มีหวาน ไม่มีเค็ม (จริงๆคือมีแหละค่ะ แต่มันโดนรสเปรี้ยวกลบไปซะหมด) ชะอมชุบไข่กินแล้วรู้สึกว่าไม่อร่อยนักเพราะว่ารสเปรี้ยวพอควร จริงๆควรจะใส่ถุงแยกมามากกว่า..เพราะถ้าใส่มาในแกงส้มเลยแต่แรกแบบนี้มันก็จะอมน้ำและเปรี้ยวมาก ส่วนกุ้งที่ใส่มานั้นจะเป็นกุ้งแช่แข็ง (กินทีเดียวรู้ทันที เพราะเราซื้อเนื้อซีฟู๊ดแช่แข็งมาทำอาหารบ่อย) ส่วนข้าวที่ให้มานั้นจะเป็นข้าวหอมมะลิค่ะ รวมๆแล้วเมนูนี้เรารู้สึกว่าพอกินได้..แต่ไม่ได้ถึงกับประทับใจอะไรมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ชอบรสเปรี้ยวก็ได้ ยังไงหากใครสนใจเมนูนี้ก็ลองซื้อมาทานดูนะคะ

คะแนน 3/5

** ข้าวญี่ปุ่นหน้าไก่ซอสเทอริยากิ **


เมนูนี้จะมาแปลกกว่าเพื่อนก็คือใช้ถาดสีแดง และด้วยความที่เป็นอาหารญี่ปุ่น..ดังนั้นข้าวที่ใช้ก็จะเป็นข้าวญี่ปุ่นอย่างที่เห็นในซูชิหรือในร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆไป (แต่เรากินแล้วรู้สึกว่าข้าวไทยอร่อยกว่าค่ะ รักข้าวไทย ฮ่าๆ ) ส่วนในข้าวก็จะโรยงาดำมาให้ด้วย ส่วนไก่ที่ใส่มาให้นั้นก็ทำออกมาได้ดีมากๆเหมือนกัน ก็คือนุ่มและสุกกำลังดี กลิ่นหอมน่ากินค่ะ ส่วนซอสเค้าจะแยกใส่ซองมาให้อีกทีนึงนะคะซึ่งเราว่าดีมากๆ เพราะถ้าราดมาแต่แรกมันจะเละค่ะ โดยซอสก็ทำออกมาได้รสชาติดีมากเหมือนกัน บนชิ้นไก่ก็จะมีงาขาวโรยมาให้ด้วยอีกทีนึง ส่วนผักที่ใส่มาให้นั้นจะไม่เหมือนบนภาพประกอบหน้ากล่องเท่าไหร่ ก็คือเค้าจะใส่เป็นบล็อคเคอรี่มาให้แทนค่ะ แต่ส่วนตัวเรากลับถูกใจเพราะว่าชอบบล็อคเคอรี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยอันนี้จะเป็นบล็อคเคอรี่ที่ต้มมาแล้วซึ่งสดมากๆ ส่วนขิงดองเรากินไม่เป็นเลยไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง  รวมๆเมนูนี้จัดว่าเป็นอีกเมนูที่ทำออกมาได้ดีมากทั้งรสชาติและคุณภาพของอาหาร ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณ79บาทค่ะ

คะแนน 5/5

** ข้าวแกงเขียวหวานไก่ **


อันนี้จะเป็นแกงเขียวหวานที่มาพร้อมกับข้าวหอมมะลิ โดยแกงเขียวหวานนั้นทำออกมาได้รสชาติอร่อยมากๆเลยค่ะ ไม่เผ็ดด้วย เมนูนี้อยากแนะนำให้ลองซื้อมาทานกันดูนะคะ ส่วนวัตถุดิบที่ใส่มาในแกงก็จะมีใบโหระพา,มะเขือเปราะ กินได้หมดเลยค่ะเพราะว่านิ่มมากๆ ส่วนเนื้อไก่จะใช้แต่เนื้อหน้าอกซึ่งแกงมาจนนุ่มมากๆเลย และก็ไม่มีกระดูกติดมาด้วย โดยรวมเมนูนี้จัดเป็นอีกเมนูนึงที่คุ้มทั้งราคาและคุณภาพ โดยราคาก็จะถูกกว่าเพื่อนเลยค่ะคือ63บาท แต่เรื่องความอร่อยของมันกลับอยู่อันดับต้นๆเลย

คะแนน 5/5

** สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า **


เมนูนี้เป็นอีกเมนูนึงที่ทำออกมาได้อร่อยมากทีเดียวค่ะ เวลาเวฟแนะนำให้อุ่นด้วยไฟอ่อนเท่านั้น เพราะไม่งั้นเดี๋ยวเส้นสปาเก็ตตี้จะแข็งและเบคอนที่โรยมาก็จะดูเกรียมๆแบบในรูป อันนั้นเราทำพลาด ส่วนไวท์ซอสก็จะแยกมาให้ราดเอาเองค่ะ ซึ่งจะมีแฮมหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆใส่ไว้ด้วย จริงๆมันมีเยอะนะคะแต่มันจมอยู่ในซอส เมนูนี้เรื่องความอร่อยเราให้คะแนนเต็ม ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณ79บาท

คะแนน 5/5

** ข้าวพะแนงหมู **


อันนี้ก็เป็นอีกเมนูนึงที่อยากแนะนำให้ลองทานกันดูค่ะ เพราะว่าทำออกมาได้อร่อยทีเดียว ข้าวที่ใส่มาก็เป็นข้าวหอมมะลิอีกเช่นเคย ส่วนพะแนงหมูนั้นรสชาติทำออกมาได้กลมกล่อมมาก ไม่เค็ม ไม่เผ็ด ไม่หวานจนเกินไป เนื้อหมูสดไม่แข็ง ไม่มีกลิ่นสาบ เครื่องที่ใส่มาในแกงก็จะมีพริกชี้ฟ้าแดงกับใบมะกรูด ปกติเมนูที่เป็นแกงที่มีส่วนผสมของกะทิ..คนส่วนใหญ่จะไม่กล้าซื้อกันเพราะคิดว่าบูดง่าย แต่กับของS&Pนี่เหมือนมาจากหม้อต้มใหม่ๆเลยค่ะ ไม่ได้เว่อร์นะคะ ^_^ กินแล้วเหมือนเพิ่มต้มใหม่ๆจริงๆ 

คะแนน 5/5

** ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ **


เมนูนี้จะออกแนวอาหารพื้นบ้านหน่อย..ก็คือเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ เรื่องรสชาติของข้าวผัดนั้นทำออกมาได้ดีค่ะ ส่วนกับข้าวที่ให้มาก็จะมีหมูหวานซึ่งปรุงรสชาติมาดีมาก และก็มีถั่วฟักยาวที่ต้มมาจนสุกแล้ว(นิ่มมาก)ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว กินแล้วรู้สึกว่าสดดีค่ะ ส่วนที่น่าติก็จะมีไข่ที่ให้มาซึ่งเป็นไข่เค็ม ไข่แดงไม่มีปัญหาอะไร แต่ไข่ขาวนั้นแข็งมาก..กินแล้วกระด้างคอชักกลค่ะ 

คะแนน 4/5

** ข้าวผัดอเมริกัน **


ข้าวผัดอเมริกันของS&P ในข้าวจะมีเบคอนกับไส้กรอกใส่มาให้และโรยด้วยลูกเกตุ และก็มีลูกชิ้นหมูราดด้วยซอสพริกแยกมาให้ในถาดข้างๆ เรื่องรสชาติถือว่าโอเค แต่สิ่งที่ควรปรับปรุงก็คือลูกชิ้นจริงๆควรเปลี่ยนเป็นไข่ดาวมากกว่า เพราะพอใส่เป็นลูกชิ้นแล้วดูประหลาดไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ค่ะ  แล้วก็ในข้าวควรใส่ผักมาด้วยเช่นแครอท มะเขือเทศ ไม่งั้นกินแล้วรู้สึกเลี่ยน

คะแนน 3/5

** ข้าวแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลายอดมะพร้าว **


ในบรรดาแกงเขียวหวานทั้งหมดของS&P เมนูนี้จัดเป็นเมนูที่รสชาติด้อยที่สุด จริงๆรสชาติมันไม่ได้แย่นะคะ..เพียงแต่เราต้องการสื่อว่ามันอร่อยสู้พวกเขียวหวานไก่ไม่ได้เท่านั้นเอง โดยรสชาติก็จะเหมือนแกงเขียวหวานทั่วๆไปในตลาดค่ะ แต่ว่าจะค่อนข้างเผ็ดเหมือนกัน(ปกติS&Pจะไม่ทำรสเผ็ด) ลูกชิ้นที่ใส่มาให้จะเป็นลูกชิ้นปลากรายซึ่งทำมาค่อนข้างดี ก็คือไม่มีก้าง แต่เวลากินรู้สึกว่าจะแข็งไปหน่อยและก็ให้ลูกชิ้นมาน้อยไปหน่อย ส่วนหน่อไม้ที่ใส่มาจะเป็นหน่อไม้อ่อน(แต่ตอนเรากินเจอก้านแก่ด้วย รู้สึกเหมือนเคี้ยวหญ้าเลยค่ะ) ส่วนข้าวที่ใส่มาให้จะเป็นข้าวหอมมะลิ รวมๆเมนูนี้เราว่าแค่พอกินได้..ไม่ได้ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้อร่อยอะไรนัก เมนูนี้ราคาจะอยู่ที่75บาทค่ะ

คะแนน 3/5

** ข้าวหน้าไก่ **


เมนูนี้เป็นไก่ผัดน้ำมันหอยที่มาพร้อมกับข้าวหอมมะลิ เรื่องรสชาติถือว่าทำออกมาได้อร่อยมาก เนื้อไก่ที่ใช้เป็นเนื้อหน้าอก ไม่มีมัน, ไม่มีกระดูกหรือหนังติดมา เมนูนี้เป็นอีกเมนูหนึ่งที่อยากให้ลองกันนะคะ ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ69บาท

คะแนน 5/5

** มักกะโรนีผัดไก่ **


อันนี้จะเป็นมักกะโรนีผัดในซอสมะเขือเทศ เรื่องรสชาติทำออกมาดีใช้ได้ เส้นมักกะโรนีรู้สึกว่าตัดมายาวไปหน่อยค่ะ..อาจกินลำบากนิดนึงถ้าไม่มีช้อน และก็เนื้อไก่รู้สึกว่าให้มาน้อยไปหน่อย เมนูนี้ปริมาณค่อนข้างเยอะทีเดียว..สาวๆอาจกินไม่หมด

คะแนน 3/5

** ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทย **


เมนูนี้เป็นอีกเมนูนึงที่ทำออกมาได้อร่อยทีเดียวค่ะ ในกล่องจะเป็นข้าวหอมมะลิกับหมูทอดกระเทียมที่ปรุงรสชาติมาดีมาก เนื้อหมูไม่มีมัน..ไม่มีกลิ่นสาป ปริมาณที่ให้มาก็กำลังดีค่ะ เป็นอีกเมนูนึงที่อยากแนะนำ โดยราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ75บาท

คะแนน 5/5

** ข้าวสเต็กหมู **


เมนูนี้..หน้าตาของมันดูแล้วไม่ค่อยเหมือนกับชื่อข้าวสเต็กหมูเท่าไหร่นัก ตอนเห็นแรกๆอาจจะคิดว่าเป็นลูกชิ้นหมูซะมากกว่าค่ะ แต่จริงๆมันคือหมูบดปั้นเป็นก้อนกลมแล้วเอาไปทอดนั่นเอง แล้วถึงนำมาผัดกับแครอท,ถั่วลันเตาและซอสมะเขือเทศ ส่วนเรื่องรสชาติอันนี้เราไม่ได้เป็นคนกินเองเพราะเราไม่ชอบกินอาหารฝรั่ง (ไม่ชอบอาหารเปรี้ยว ซอสมะเขือเทศก็ด้วย) ดังนั้นเมนูนี้แฟนเราเป็นคนกิน โดยรสชาตินั้นทำออกมาได้ดีค่ะ..ถ้าใครชอบอาหารแนวฝรั่งก็น่าจะถูกใจ

คะแนน 4/5

** มักกะโรนีผักโขมอบชีส **


เมนูนี้เป็นมักกะโรนีที่นำมาอบรวมกับเบคอน,ผักโขมและชีส ส่วนเรื่องรสชาตินั้นอร่อยมากค่ะ จริงๆเมนูนี้มันจะมี2แบบนะคะคือแบบใส่ผักโขมกับไม่ใส่ผักโขม ดังนั้นจึงขอรีวิวรวมไว้ที่เดียวกันเลย โดยจากความรู้สึกที่กิน..รู้สึกว่าแบบใส่ผักโขมจะอร่อยกว่า เพราะแบบที่ไม่ใส่ผักโขมก็ไม่ได้ใส่เบคอนเพิ่มมาให้เยอะเท่าไหร่ และเวลากินก็จะรู้สึกว่าเลี่ยนกว่าด้วยเพราะไม่มีผักเลย ดังนั้นจึงขอแนะนำเป็นอันที่ใส่ผักมากกว่าค่ะ เพราะใส่ผักมาให้เยอะมากๆ ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ79บาท (อันที่ไม่ใส่ผักโขมก็79บาท)

คะแนน 5/5

** สปาเก็ตตี้ซอสไก่ **


อันนี้เป็นอาหารแนวฝรั่งอีกเมนูนึง โดยข้างในกล่องจะมีเส้นสปาเก็ตตี้กับน้ำซอสที่แยกมาให้ โดยซอสจะเป็นไก่สับละเอียดที่นำมาผัดรวมกับเห็ดฟางในซอสมะเขือเทศ ส่วนเรื่องรสชาติ..อันนี้เราให้แฟนกินค่ะเพราะเราไม่ชอบรสเปรี้ยว โดยรสชาตินั้นทำออกมาได้ดี ส่วนปริมาณที่ให้มาก็กำลังดีไม่เยอะหรือน้อยจนเกินไป เป็นเมนูที่กินง่าย เหมาะกับคนที่ไม่หิวแต่ต้องกินเพื่อไม่ให้เป็นโรคกระเพาะ

คะแนน 5/5

** สปาเก็ตตี้ซาลมอนและซอสเพสโต้ **


อันนี้เป็นสปาเก็ตตี้ในซอสเพสโต้ (ซอสเพสโต้ก็คือซอสใบโหระพา) โดยเนื้อปลาที่ใส่มาเป็นเนื้อปลาซาลมอนที่ทอดมานิดๆ ไม่มีก้าง เรื่องรสชาติถือว่าทำมาได้ดีมาก เป็นเมนูที่กินง่ายและอร่อยค่ะ ส่วนราคาของเมนูนี้จะอยู่ที่ประมาณ81บาท 

คะแนน 5/5

Comming Soon